Pressure
Vessel ออกแบมาเพื่อใช้งานที่อุณหภูมิสูง
แต่ต้องทำ Hydrotest ที่อุณหภูมิ
Ambient
สามารถทำได้อย่างไร???
Stress Ratio for Pressure Test;
เราทราบกันดีว่า New
Pressure Vessel ก่อนที่จะนำไปใช้งานนั้นจำเป็นต้องทำ
Hydrostatic
Test ที่ความดัน
(Test
Pressure) ตามที่
ASME
BPVC Section
VIII, Div.1
กำหนด นั่นคือ ไม่น้อยกว่า 1.3 เท่าของ Maximum
Allowable Working Pressure (MAWP) หรือ 1.5 เท่าของ
MAWP
สำหรับ
Vessel ที่ออกแบบตาม
ASME
Code
Edition
ก่อนปี
1999
เพื่อทดสอบความแข็งแรงและตรวจสอบการรั่วของ Pressure
Vessel
ปกติแล้วเราจะทำ Hydrotest กันที่อุณหภูมิบรรยากาศ
(Ambient)
แต่
Vessel
บางตัวนั้นถูกออกแบบมาให้ใช้งานภายใต้ความดันที่อุณหภูมิสูง คำถามคือการทำ
Hydrotest ที่อุณหภูมิ
Ambient
กับที่อุณหภูมิที่เราต้องการจะนำ
Vessel
ไปใช้งาน
(Design
Temperature) นั้นแตกต่างกันหรือไม่...
เริ่มจากมาดูกันว่าอุณหภูมิที่สูงขึ้นมีผลกับ
Pressure
Vessel
อย่างไร?
วัสดุโดยทั่วไปรวมถึงเหล็กที่ใช้ทำ Vessel
จะมีความแข็งแรงลดลงเมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น
นั่นหมายความว่าความดันที่อุณหภูมิสูงจะสร้างผลกระทบกับตัว Vessel
มากกว่าที่อุณหภูมิต่ำ สรุปก็คือ เราทำ Hydrotest ที่อุณหภูมิ
Ambient
ซึ่ง
Vessel
มีความแข็งแรงมากกว่า
ก็ต้องใช้ Test Pressure มากกว่า
1.3
เท่าของ
MAWP
แล้ว ASME บอกว่าอย่างไร?
ASME
ได้กำหนด Temperature Correction Factor หรือ Stress
Ratio ขึ้นมาเพื่อชดเชยความแข็งแรงของ
Vessel
ที่ลดลงเมื่อต้องนำไปใช้ที่อุณหภูมิสูง โดย Stress
Ratio
สามารถคำนวณได้จากการนำความแข็งแรงของวัสดุที่อุณหภูมิ Ambient
(อุณหภูมิทดสอบ) มาหารด้วย
ความแข็งแรงของวัสดุที่อุณหภูมิ Design
Temperature
และ
Stress
Ratio นั้นจะต้องมีค่ามากกว่าเท่ากับ
1 เสมอ
ซึ่งเมื่อนำไปคูณก็จะได้ Test Pressure มากกว่า
1.3
เท่าของ
MAWP นั่นคือ
ASME
บังคับให้เรา
Test
ที่ความดันที่สูงขึ้น
ถึงตอนนี้ลองสังเกตกันดูนะครับว่า Hydro.
Test Pressure สำหรับ
High
Temperature Service Pressure Vessel นั้นมักจะมีค่าสูงกว่า 1.3 เท่า
(หรือ 1.5
เท่า) ของ MAWP เสมอ
และสำหรับใครที่ต้องการคำนวณ Test
Pressure เพื่อนำไปใช้งานก็อย่าลืมพิจารณา
Stress
Ratio กันด้วยนะครับ
by Mo Thanachai